ทำไมห้องเรียนถึงสกปรก ?
สภาพปัญหา นักเรียนขาดความรับผิดชอบในการทำความสะอาดห้องเรียน ทำให้ห้องเรียนสกปรก ไม่เป็นระเบียบ ครูผู้สอนจึงใช้กิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อกระตุ้นการทำงานของนักเรียน
กระบวนการจัดการความรู้
๑. สนทนาซักถามความคิดเห็นของนักเรียนเกี่ยวสภาพและบรรยากาศภายในห้องเรียน นักเรียนร่วมกันระดมสมองถึงสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดีที่พบเห็นภายในห้องเรียน
๒. ร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการดูแลรักษาและจัดสภาพภายในห้องเรียนให้น่าอยู่
๓. ให้นักเรียนลงมือปฏิบัติจริงในชั้นเรียนเพื่อให้เกิดประสบการณ์ตรง ครูสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนและแนะนำความรู้เพิ่มเติม เกี่ยวกับการทำความสะอาดห้องเรียน
๔. ร่วมกันสรุปความรู้และประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนลงมือปฏิบัติจริง
๕. นักเรียนนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการจัดทำเวรประจำวันในห้องเรียนของตนเอง
ผลสำเร็จที่เกิดขึ้น
๖. สภาพภายในห้องเรียนมีความสะอาดสวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย ทำให้บรรยากาศน่าเรียน
๗. นักเรียนมีนิสัยรักการทำงาน มีระเบียบแบบแผนการทำงานมากขึ้น
๘. นักเรียนสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
ในแต่ละสัปดาห์ จะมีการจัดเวรทำความสะอาดห้องเรียนกัน ในบางปีการศึกษา อาจจะมีรางวัลให้กับกลุ่มที่ทำความสะอาดห้องเรียนดีเด่น เรียกว่า ทีมเวิร์คดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
การทำความสะอาดห้องเรียนนั้น ถ้าเป็นโรงเรียนที่เปิดทำการเรียนการสอนมานาน ภายในห้องเรียนมักจะเป็นพื้นไม้ วิธีทำความสะอาดห้องเรียน ก็อาจจะลงเทียนไข แล้วให้นักเรียนขัดพื้นกระดานจนเป็นมัน เทาวลาจะเข้าห้องเรียน ก็ให้ถอดรองเท้าเรียงไว้หน้าห้อง หรืออาจจะมีชั้นวางรองเท้าไว้ให้
ช่วงเวลาพักกลางวัน หลังรับประทานอาหารเสร็จ นักเรียนทั้งชาย-หญิง ก็จับมือกันเป็นคู่ วิ่งลากกันไป เป็นการขัดพื้นไม้ไปในตัว ต่างก็สนุกสนาน เฮฮา ตามประสาเด็ก
แต่ถ้าเป็นอาคารเรียนรุ่นใหม่ มักจะก่อสร้างเป็นตึก ปูพื้นห้องเรียนด้วยกระเบื้อง หรือปูน ก็จะใช้วิธีการกวาด และถูพื้นด้วยม็อบเปียก และม็อบแห้ง การนิยมจัดเวรทำความสะอาด ยังคงมีต่อเนื่องกันมาจนถึงยุคสมัยนี้
แต่การทำความสะอาดห้องเรียน ไม่ได้เน้นแค่การดูแล เช็ดถู พื้นห้องเรียน ให้สะอาดเอี่ยมเพียงอย่างเดียว การดูแลกระดานดำ โต๊ะเรียน ตู้เก็บเอกสารประกอบการเรียน และฝาผนังห้อง ก็เป็นสิ่งสำคัญที่คุณครูประจำชั้น จะต้องมอบหมายให้นักเรียนช่วยกันดูแลรับผิดชอบ
นักเรียนบางคน ชอบซุกขนมไว้ในโต๊ะเรียน บางครั้งลืม เลยกลายเป็นอาหารให้มด หนู และแมลงสาบเข้ามาอาศัยอยู่ อาศัยกินในห้องเรียนด้วย ซึ่งกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคในที่สุด
ดังนั้น นอกจากจะมอบหมายให้นักเรียนแต่ละคน รับผิดชอบทำความสะอาดภายในห้องเรียนแล้ว คุณครูยังจะต้องจัดให้มี Big Cleaning Day โดยใช้ช่วงเวลาที่ใกล้วันสำคัญต่างๆ เช่น วันแม่ นอกจากจะมีการจัดบอร์ด ประกวดภาพวาดวันแม่ และคำขวัญวันแม่แล้ว คุณครูอาจจะสอดแทรก การทำความสะอาดห้องเรียนไปในกิจกรรมนั้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว นักเรียนก็มักจะสนุกสนาน กับการทำกิจกรรมพิเศษนี้ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
แต่งานใหญ่ในการทำความสะอาดห้องเรียน มักจะเป็นงานทาสีกำแพงห้องเรียนใหม่ เพราะนักเรียนแต่ละรุ่น มักจะฝากภาพวาด และคำพูดต่างๆ นานา ไว้เป็นศิลปะบนกำแพงอยู่เสมอๆ
ส่วนใหญ่ ในช่วงเวลาปิดเทอมใหญ่ คุณครูก็มักจะเรียกตัวลูกศิษย์ที่พอจะมีเวลาว่าง มาช่วยกันทาสีกำแพงห้องให้ดูใหม่ ซึ่งงบประมาณในการซื้อสีและอุปกรณ์นั้น คุณครูบางท่านอาจจะควักเงินส่วนตัว ซึ่งก็ไม่ได้ทาสีห้องใหม่กันทุกปีหรอกค่ะ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมมากกว่า
ในบางครั้ง อาจจะจัดหาภาพวาดสวยๆ ที่เป็นข้อคิด คำคม มาปิดทับพื้นผนังบางส่วน เพื่อให้เกิดเป็นแนวความคิดที่ดี ที่จะชี้นำให้ลูกศิษย์คิดอะไรดีๆ ได้ จากการมองภาพทุกวันๆ จนกว่าจะจบการศึกษา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น